การรับประทานเห็ดหลินจือ สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทาน เห็ดหลินจือ ใหม่ๆ อาจจะรู้สึกมึนศีรษะ ปวดเมื่อย ปวดตามข้อ ง่วงนอน ผิวหนังเกิดอาการคัน อาเจียน อาการคลายท้องเสีย ท้องผูก มีปัสสาวะบ่อย หรืออาจมีผลลักษณะอาการของโรคนั้นๆมากขึ้นเป็นปฏิกิริยาการสะท้อนกลับอันเป็นเรื่องปกติของใช้ยาแผนโบราณ เนื่องจากเมื่อตัวยาได้เริ่มเข้าไปในร่างกาย จะเข้าไปชะล้างสิ่งที่เป็นพิษภายในร่างกายให้สลายหรือเคลื่อนย้ายและขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย จึงทำให้เกิดอาการดั่งกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายกำลังฟื้นตัวไม่ใช่ผลข้างเคียง ดังเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานเมื่อกินเห็ดหลินจือ แล้ว อาจมีการขับถ่ายน้ำตาลออกมามากกว่าปกติ ส่วนผู้ที่เป็นโรคไขข้ออาจเกิดอาการเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
- โรคไต หรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตจะปวดเมื่อยตามข้อ เท้าจะบวม ร่างกายอ่อนเพลีย ซึ่งอาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 2-3 วัน หรือประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะกลับสู่สภาพปกติแล้วแต่สภาพร่างกายอันแตกต่างของแต่ละคน ไม่ต้องตกใจให้รับประทาน เห็ดหลินจือ ต่อไปอย่าหยุด โดยลดจำนวนหากมีผลทางอาการมาก เมื่อร่างกาปกติในให้รับประทานตามการแนะนำต่อไป สำหรับผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยารักษาที่แพทย์สั่ง ก็สามารถรับประทาน เห็ดหลินจือ ควบคู่ไปได้ นอกจากจะไม่เกิดอาการต่อต้านขึ้นแล้วยังขจัดผลข้างเคียงอันเกิดจากยาแผนปัจจุบันอีกด้วย
การที่จะทราบว่าเราควรรับประทาน
- เห็ดหลินจือ มากน้อยเพียงใด ต้องขึ้นอยู่กับอาการของโรคและสภาพร่างกายของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน เช่น บางคนรับประทาน 3 ชุด ต่อวัน ก็สามารถบำบัดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สภาพร่างกายของบางคนต้องรับประทาน เพิ่มเป็น 4 ชุด หรือ 5 ชุด หรือ 6 ชุด ต่อวัน จึงจะได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
>> วิธีรับประทาน
1. ร่างกายระดับ ดี
> สัปดาห์ที่ 1 : 1 ชุดก่อนอาหารเช้า
> สัปดาห์ที่ 2 : เช้า 1 ชุด, เย็น 1 ชุด
> สัปดาห์ที่ 3 : เหมือน สัปดาห์ที่ 2 ถ้ารู้สึกอ่อนเพลียหลังทำงานหนักให้เพิ่มอีก 1 หรือ 2 ชุด สำหรับวันนั้นเท่านั้น
> สัปดาห์ที่ 4 : เหมือนสัปดาห์ที่ 3
–
หมายเหตุ
– ขณะรับประทาน ดอก/ราก นั้นสามารถรับประทานยาแผนปัจจุบันหรือสมุนไพรอื่นได้
– หญิงที่มีสุขภาพดี สามารถรับประทานได้เช่นกัน
–
2. ร่างกายระดับ พอใช้
> สัปดาห์ที่ 1 : 1 ชุดก่อนอาหารเช้า ,สำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด กระเพาะ รับประทานหลังอาหารเช้า ถ้าง่วงให้รับประทานตอนกลางคืน
> สัปดาห์ที่ 2 : 1 ชุดเช้า, 1 ชุดเย็น, ก่อนอาหาร เช้า-เย็น,ถ้าเกิดปฏิกิริยารุนแรงให้ลดเป็น รับประทาน 1 ชุด เท่านั้น
> สัปดาห์ที่ 3 : 1 ชุดเช้า, 1 ชุดเย็น, 1 ชุดกลางคืน
> สัปดาห์ที่ 4 : ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าให้เพิ่มดังนี้
-เช้า 1 ชุด,เย็น 1 ชุด, ผู้ป่วยที่มีบาดแผลภายนอกหรือผิวแตกใหเทาเฉาะผง ดอก ตรงที่เป็นแผลเท่านั้น
–
3. ร่างกายระดับ ไม่ดี
> สัปดาห์ที่ 1 : 1 ชุดก่อนอาหารเช้า
> สัปดาห์ที่ 2 : 1 ชุดเข้า, 1 ชุดเย็น, ถ้าปฎิกิริยารุนแรงให้ลดเป็ฯรับประทาน 1 ชุดเท่านั้น
> สัปดาห์ที่ 3 : 2 ชุดเช้า ,2 ชุดเย็น ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
> สัปดาห์ที่ 4 : เหมือนสัปดาห์ที่ 3
–
4. หากต้องการบำบัดโรคบางอย่างสามารถดูวิธีการบำบัดโรคแต่ละโรค ผ่าน line: @fcfreedom หรือคลิก https://lin.ee/lnOn4TI
5. การรับประทานเพื่อบำบัดโรคในแต่คนย่อมแตกต่างกัน
6. ถ้าเกิดผลรุนแรงให้ลดปริมาณเหลือครึ่งหนึ่ง
–
7. ควรรับประทาน เห็ด หลินจือ ทุกวันเพื่อผลในการบำบัดโรคอย่างถาวร
–
8. ควรรับประทานเมื่อท้องว่าง แต่สำหรับผู้ที่เป็น โรคหืดหอบ โรคหัวใจ โรคความดัน โรคกระเพาะและเป็นมะเร็ง ควรรับประทานหลังอาหาร 30 นาที่ หรือ 1 ชั้วโมง หลังจาก 2 สัปดาห์ เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้ว จึงรับประทานก่อนอาหารเหมือนผู้ป่วยโรคอื่นๆ
** คำแนะนำ : ให้รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที